เล่นยังไงให้ "วูล์ฟ"
เขียน/เรียบเรียง : กมล คงนิสัย
28 มีนาคม 2562
บนเว็บไซต์ 90min.com/th
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าปัจจุบัน สโมสรฟุตบอลทีมหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้ เม็ดเงินจำนวนมหาศาลมีส่วนสำคัญและเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ นอกเหนือไปจากทีมระดับท็อปของโลกที่มีเจ้าของทีมเป็นมหาเศรษฐีหรือกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่แล้ว เราจะเห็นว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ การเข้าไปลงทุนเพื่อไล่ล่าความสำเร็จกับสโมสรขนาดกลางค่อนไปขนาดเล็ก เริ่มมีให้เห็นกันมากขึ้น โดยแฟนบอลไทยคุ้นชื่อกันดีอย่าง 'จิ้งจอกสยาม' เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีเจ้าของเป็นกลุ่มทุนจากไทย สร้างเส้นทางความสำเร็จถึงขั้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศมาครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร


สำหรับแฟนฟุตบอลอังกฤษน่าจะพอรู้จัก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส อยู่บ้างในฐานะทีมค่อนไปทางท้ายตาราง ที่ขึ้นชั้นและตกชั้นเป็นว่าเล่น มีจุดเด่นทุกยุคทุกสมัยที่สไตล์การเล่นที่เข้าบอลดุดัน ถึงลูกถึงคน ตั้งรับเน้นสวนกลับ นักเตะชื่อดังของทีมย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว แฟนบอลรุ่นใหญ่อาจจะเคยได้ยินชื่อนักเตะของทีมอย่าง สตีฟ บูล กองหน้าระดับตำนานของทีม และ จอร์จ เอโลโคบี้ กองหน้าร่างยักษ์ (อาจไม่ยักษ์เท่า อคินเฟนว่า) ที่ค้าแข้งกับทีมช่วงปี 2008 - 2014
หลังจากเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จในปี 2009 ให้หลังเพียง 3 ฤดูกาล เจ้าหมาป่า ก็มีอันต้องระเห็จตกชั้นจากลีกสูงสุดในฤดูกาล 2012 - 2013 ด้วยอันดับสุดท้าย ชนะเพียง 5 นัด และเสียไปถึง 82 ประตู
ความตกต่ำของสโมสรอันเก่าแก่จากภูมิภาคเวสต์มิดแลนด์ยังไม่จบเพียงเท่านี้ หลังจากตกชั้นไปสู่ลีกรองได้เพียงฤดูกาลเดียว ทีมก็มีอันต้องไถลลื่นหล่นไปสู่ ลีกวัน ในปีเดียวกันนั้น นับเป็นการตกชั้นไปสู่ลีกระดับที่ 3 ของฟุตบอลอังกฤษในรอบเกือบ 25 ปีของสโมสร

หลายคนเมื่อทราบชะตากรรมของเจ้าหมาป่าก็คงไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เพราะมันเป็นปกติวิสัยของกีฬาฟุตบอล มีสูงสุดย่อมมีตกต่ำเป็นธรรมดา ยิ่งโดยเฉพาะในยุคสมัยที่ขับเคลื่อนความสำเร็จในวงการกีฬาด้วยเงินจำนวนมหาศาล แม้ว่าวูล์ฟแฮมป์ตันจะกลับมาสู่ลีกพระรองได้ภายในฤดูกาลเดียว ทว่า 'ความฝัน' ที่จะกลับไปสู่ลีกสูงสุดอันพึงจะเป็นไปได้จากความหวังของเหล่าแฟนบอลหมาป่าก็ยังนับว่าริบหรี่ และมองว่าไกลเกินจะเป็นจริงได้
ปี 2016 กับการเข้ามาของกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนนามว่า Fosun International เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรด้วยเงินเพียง 45 ล้านปอนด์ จากสตีฟ มอร์แกน เจ้าของทีมคนเดิม ซึ่งเป็นเงินที่น้อยกว่าค่าตัวนักฟุตบอลระดับท็อปหลายๆ คน เสียอีก ผลของการเปลี่ยนมือเจ้าของทีม ย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้นการมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงชนิดที่หมาป่าตัวเดิมสลัดขนใหม่รับหน้าหนาวกันแทบไม่ทัน ความคาดหวังของแฟนบอลต่อการเปลี่ยนแปลง มีผลให้ผู้จัดการทีมที่พาหมาป่าไปไม่ถึง 'ฝัน' มีอันต้องกระเด็นออกจากรังโมลินิวซ์ สเตเดียม ไปทีละคนๆ

จนกระทั่งในฤดูกาล 2017 การเข้ามาของโค้ชคนใหม่ชาวปอร์ตุกีส นามว่า "นูโน่" เอสปิริโต้ ซานโต้ เขาได้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่สโมสร ที่จะนำพาความฝันของแฟนบอลวูล์ฟแฮมป์ตันเข้าใกล้กับความเป็นจริงได้มากที่สุด การจบฤดูกาล 2017 ด้วยตำแหน่งถ้วยแชมป์ลีกรอง และทำได้ถึง 99 คะแนน ไม่สามารถรั้งความกระหายอีกขั้นของทีมได้ พวกเขามีงานใหญ่ที่หนักอึ้งรออยู่ ซึ่งเป้าหมายในการกลับสู่ลีกสูงสุดไม่ใช่การมีชีวิตรอดหรือต่อลมหายใจปีต่อปีอีกต่อไป เมื่อในครั้งนี้ หมาป่าอยากกระโดดไปไกลถึงเวทียุโรป และนี่คือ 4 ขั้นบันไดปรัชญาของ นูโน่ ซานโต้ ที่เขาใช้ในการสร้างสโมสรอันเก่าแก่แห่งนี้กลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ในอนาคต
4. ออกจากรังก่อน ย่อมได้อาหารก่อน

หลังจบฤดูกาล 2017 ด้วยฐานะแชมป์ลีกรองและได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกโดยอัตโนมัติ พวกเขาไม่รีรอและหลงใหลอยู่กับความสำเร็จชั่วครู่ นูโน่ และทีมงานสตาฟโค้ช เริ่มงานเสาะหาผู้เล่นฝีเท้าดีมาเสริมทัพทันที เริ่มต้นจากการเซ็นสัญญาซื้อขาดเซ็นเตอร์แบ็กร่างยักษ์ วิลลี่ โบลี่ จาก ปอร์โต้ อดีตทีมลูกหม้อของ นูโน่ เอง เท่านั้นยังไม่พออีกหนึ่งนักเตะที่เปลี่ยนจากสัญญายืมตัวเป็นซื้อขาด คือศูนย์หน้าดาวรุ่งร่างเล็กของทีมอย่าง ดิโอโก้ โญต้า แม้ฤดูกาลนี้จะไม่สามารถยิงได้เป็นกอบเป็นกำเท่าปีก่อน แต่การเข้ามาทดแทนของอีกหนึ่งกองหน้าและเป็นดาวซัลโวสูงสุดในฤดูกาลนี้อย่าง ราอู ฆิเมเนซ จากเบนฟิก้า ก็สามารถทดแทนและช่วยผลิตสกอร์ให้ทีมได้พอสมควร

ฝูงหมาป่าที่ออกจากรังก่อนย่อมได้ออกล่าก่อนฝูงอื่นเสมอ สโมสรฟุตบอลที่เริ่มเสาะหานักเตะตั้งแต่ตลาดยังไม่เปิดย่อมได้นักเตะฝีเท้าดีในราคาที่ไม่สูงเกินจริง

สามนักเตะที่ว่ามาเป็นการเซ็นสัญญาในเดือนมิถุนายนทั้งสิ้น ตามมาด้วยผู้รักษาประตูจอมเก๋าอย่าง รุยส์ ปาทริซิโอ้ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ เจา มูตินโญ่ จาก โมนาโก ที่ทำให้ภาพรวมของทีมแข็งแกร่งขึ้นมาทันตา สามารถต่อกรทีมใหญ่ไม่ว่าจะเป็น เชลซี ลิเวอร์พูล หรือแม้แต่ล่าสุดที่สามารถเขี่ย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบ 8 ทีม ฟุตบอลเอฟเอ คัพ
3. หลังบ้านต้องแน่นก่อน

สำหรับ นูโน่ ประสบการณ์ในฐานะผู้เล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู ทำให้เขาหลักการทำทีมที่เน้นเกมรับอันเหนียวแน่น และจังหวะสวนกลับที่สามารถหวังผลได้เสมอ ในทีมมีผู้รักษาประตูฝีมือดีถึง 2 คน ไม่ว่าจะเป็น รุยส์ ปาทริซิโอ้ หรือ จอห์น รัดดี้ ที่ลงเล่นในเกมฟุตบอลถ้วยก็ยังคงรักษาฟอร์มได้ดี หลังเสียตำแหน่งมือหนึ่งในฤดูกาลนี้ให้กับ ปาทริซิโอ้ ตามมาด้วยตำแหน่งแผงหลังสุดแกร่ง แมตซ์ โดเฮอร์ตี้, ไรอัน เบ็นเน็ต, วิลลี่ โบลี่, และคอเนอร์ โคดี้ อดีตเด็กปั้นของ ลิเวอร์พูล ที่มาแจ้งเกิดได้เต็มตัวในรังหมาป่า

ในแดนกลาง นูโน่ เลือกใช้การประสานงานทำเกมของสองมิดฟิลด์หลักชาวปอร์ตุกีส รูเบน เนเวส และเจา มูตินโญ่ ซึ่งทำให้เกมสวนกลับของวูล์ฟมีความน่ากลัว สร้างโอกาสเข้าทำที่หลากหลายและเห็นผลชัดเจน โดยเฉพาะกับทีมใหญ่ต้องเจ็บมานักต่อนัก ในแดนหน้าแม้ ราอูล ฆิเมเนซ และ ดิโอโก้ โญต้า จะไม่ได้ยิงเป็นกอบเป็นกำ แต่หลายๆ ประตูที่ทำได้ ก็เป็นประตูสำคัญที่นำมาซึ่งชัยชนะล้ำค่าของทีม
2. ฟุตบอลไม่ได้เล่นกัน 11 คน

นูโน่ ให้ความสำคัญต่อทุกส่วนองค์ประกอบของสโมสรฟุตบอล ไล่ตั้งแต่พ่อครัวประจำทีม คนจัดหาชุดแข่ง หรือแม้แต่พนักงานดูแลไฟสนามซ้อม ล้วนมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของทีมทั้งนั้น ไม่เฉพาะเพียงสตาฟโค้ช นักฟุตบอล ผู้บริหาร หรือสปอนเซอร์เท่านั้น เมื่อครั้งได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน เขาไม่ลืมที่จะมอบเครดิตความสำเร็จส่วนตัวของเขาให้กับเจ้าหน้าที่ทุกตำแหน่งในสโมสร ด้วยความเชื่อที่ว่าเหนือกว่าผู้เล่นชั้นยอด สปิริตทีมที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอันเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกคน จะพาทีมไปสู่ความสำเร็จอันยั่งยืนในที่สุด
1. ไม่ลืมแฟนบอล

กระแสความโด่งดังของนักเตะที่เข้าสู่ทีมด้วยเงินก้อนโต ผลงานที่น่าลุ้นล่าติดตามนำมาซึ่งฐานแฟนบอลที่เพิ่มมากขึ้น แม้จะไม่ใช่ทีมใหญ่ในเขตมิดแลนด์ที่มีฐานแฟนบอลกว้างขวางเฉกเช่น แอสตัน วิลล่า ทว่า วูล์ฟแฮมป์ตัน กับการเข้ามาของกลุ่มทุนสัญชาติจีน แม้จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง แต่ทว่ามีสิ่งหนึ่งยังเหมือนเดิมคือความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บริหารและแฟนบอล นอกจาก นูโน่ ที่เป็นที่รักของแฟนบอลหมาป่าเพราะความเป็นกันเองกับแฟนบอลแล้ว ซีอีโอของทีมยังมีการนัดประชุมระหว่างผู้บริหารกับตัวแทนกลุ่มแฟนบอลทุก 2 เดือน เพื่่อสร้างการสื่อสารระหว่างผู้บริหาร แฟนบอล และท้องถิ่น นำมาสู่ความเข้าใจ มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือการสาน 'ฝัน' ของทุกคนให้เป็นจริง

ในแต่ละฤดูกาลมักจะทีมทีมกลางๆ ที่ทำผลงานได้โดดเด่น มีนักเตะฟอร์มดี เข้าตา จนถูกทีมใหญ่ดึงตัวไป แต่ปีถัดมามีอันต้องไปอยู่ท้ายตารางหรือตกชั้นไปแบบไม่มีลุ้นเอาดื้อๆ แต่สำหรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส พวกเขาไม่ใช่ม้าตีนต้นที่มาแรงแค่เพียงฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน ด้วยแนวทางการสร้างทีมที่วัดผลลัพธ์ความสำเร็จก้าวแรกจากฤดูกาลก่อนจนถึงปัจจุบัน ปรัชญาการทำทีมที่ชัดเจน แนวทางการบริหารที่ไม่ลืมรากฐานที่สำคัญที่สุด คือแฟนบอล นี่คือสูตรสำเร็จในการสร้างสโมสรฟุตบอลขนาดเล็กไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้ โดยไม่ต้องฝันกลางวันอีกต่อไป
ชวนมาติดตามดูกันว่า เดอะ วูล์ฟ และ นูโน่ ซานโต้ และลูกทีมของเขา จะไปได้ไกลแค่ไหนบนเส้นทางความฝันที่ขาข้างหนึ่งก้าวเหยียบความจริงบนพื้นหญ้า เวมบลีย์ ไปข้างหนึ่งแล้ว ไม่แน่.. อาจถึงคราวที่หมาป่าจะก้าวตามรอยความสำเร็จของ จิ้งจอกสยาม ก็เป็นได้
The Wolves Style
Published:

Owner

The Wolves Style

The new born of the new Wolverhampton Wanderers.

Published:

Creative Fields