เด็กอเมริกันเกรด 8 ผู้เป็นทั้งนักกีฬาดาวรุ่งและม้ามืดด้านการลงทุน
.
เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงส่งผลกระทบให้นักลงทุนต่างก็ชะลอการลงทุนของตัวเองไว้ เพราะหวาดวิตกกับความผันผวนของตลาดหุ้น ที่เกิดจากผลกระทบของโควิด-19 แต่ เด็กม.2 ฉายา Christon “The Truth” Jones
.
หรือที่เราเรียกเขาสั้น ๆ ว่า ‘โจนส์’ ผู้มีประสบการณ์ด้านการลงทุนในหุ้นมาแล้วเป็นระยะเวลา 5 ปี ได้ฉวยโอกาสซื้อหุ้นเทสลาในขณะที่ราคาร่วงลงมาอยู่ที่ประมาณ 72 ดอลลาร์ เมื่อเดือนมีนาคม 2020 แล้วราคาหุ้นก็รีบาวด์กลับมาที่เกือบ 300 ดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคมในปีเดียวกัน...จุดนี้เองที่สร้างกำไรอย่างงามให้กับเขา!
.
โจนส์ใช้บัญชีร่วมกับแม่ของเขาที่ชื่อ Janel Jones แล้วแอบซื้อหุ้นเทสลามาจำนวนหนึ่ง จนกระทั่งพวกเขาทำเงินได้ราว 78,000 ดอลลาร์ จากการขายหุ้นเทสลาเพียงตัวเดียวเท่านั้น โดยปัจจุบันหุ้นเทสลามีมูลค่าอยู่ที่ 560 ดอลลาร์ ซึ่งได้ลดลงจากระดับสถิติสูงสุดตลอดกาล (ราว 900 ดอลลาร์) เมื่อต้นเดือนมกราคมปี 2021 ที่ผ่านมา
.
โจนส์เป็นหนึ่งในนักลงทุนอายุน้อยที่มีความรู้ทางการลงทุนมากเกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ซึ่งผลสำรวจของดอยช์แบงก์ (Deutsche Bank) ได้เผยออกมาว่า นักลงทุนรายย่อยที่เป็นเด็กมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 แต่ว่าตามกฎแล้วผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในสหรัฐอเมริกา จะสามารถซื้อขายหรือลงทุนได้ก็ต่อเมื่อ พวกเขาใช้บัญชีของพ่อแม่หรือผู้ปกครองเท่านั้น
.
ตอนอายุ 9 ขวบ โจนส์ได้โน้มน้าวให้แม่ของเขาซื้อหุ้นของ Amazon(AMZN) เพราะเขาคิดว่าจะเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาวเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจร้านค้าออนไลน์
จากนั้นก็ได้ลองเทรดหุ้นตัวอื่น ๆ อีกในเวลาต่อมา
.
แนวคิดของเขาในการเลือกหุ้นนั้น เขาจะเริ่มจากการตั้งคำถามว่า “โลกกำลังจะไปถึงไหน” ซึ่งแนวคิดจากการตั้งคำถามนี้ก็ได้นำพาเขาไปสู่การซื้อหุ้นดี ๆ อีกหลายตัว เช่น DOCU (DocuSign Inc) หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวกับ electronic-signature ถัดมาก็เป็นหุ้น ROKU (Roku Inc) ที่เกี่ยวกับการสตรีมเกม และในทำนองเดียวกันก็เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับเภสัชกรรมและปัญญาประดิษฐ์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีหุ้น NVDA ที่เป็นหุ้นในกลุ่มของนวัตกรรมและ Smart Cities
.
โจนส์มีความหลงใหลในกีฬาอเมริกันฟุตบอล และเขาเองก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะรวมความสนใจด้านกีฬาของเขาเข้ากับการบริหารกองทุนป้องกันความเสี่ยง เพื่อช่วยให้นักกีฬามืออาชีพสามารถบริหารจัดการเงินผ่านกองทุนของเขาได้ ซึ่งโจนส์เองก็ได้นำเสนอหลักสูตรการลงทุนผ่านบริษัทของเขาเองที่มีชื่อว่า Return on Investment LLC
.
.
ที่มาภาพ: thetruthjones.com
.
เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงส่งผลกระทบให้นักลงทุนต่างก็ชะลอการลงทุนของตัวเองไว้ เพราะหวาดวิตกกับความผันผวนของตลาดหุ้น ที่เกิดจากผลกระทบของโควิด-19 แต่ เด็กม.2 ฉายา Christon “The Truth” Jones
.
หรือที่เราเรียกเขาสั้น ๆ ว่า ‘โจนส์’ ผู้มีประสบการณ์ด้านการลงทุนในหุ้นมาแล้วเป็นระยะเวลา 5 ปี ได้ฉวยโอกาสซื้อหุ้นเทสลาในขณะที่ราคาร่วงลงมาอยู่ที่ประมาณ 72 ดอลลาร์ เมื่อเดือนมีนาคม 2020 แล้วราคาหุ้นก็รีบาวด์กลับมาที่เกือบ 300 ดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคมในปีเดียวกัน...จุดนี้เองที่สร้างกำไรอย่างงามให้กับเขา!
.
โจนส์ใช้บัญชีร่วมกับแม่ของเขาที่ชื่อ Janel Jones แล้วแอบซื้อหุ้นเทสลามาจำนวนหนึ่ง จนกระทั่งพวกเขาทำเงินได้ราว 78,000 ดอลลาร์ จากการขายหุ้นเทสลาเพียงตัวเดียวเท่านั้น โดยปัจจุบันหุ้นเทสลามีมูลค่าอยู่ที่ 560 ดอลลาร์ ซึ่งได้ลดลงจากระดับสถิติสูงสุดตลอดกาล (ราว 900 ดอลลาร์) เมื่อต้นเดือนมกราคมปี 2021 ที่ผ่านมา
.
โจนส์เป็นหนึ่งในนักลงทุนอายุน้อยที่มีความรู้ทางการลงทุนมากเกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ซึ่งผลสำรวจของดอยช์แบงก์ (Deutsche Bank) ได้เผยออกมาว่า นักลงทุนรายย่อยที่เป็นเด็กมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 แต่ว่าตามกฎแล้วผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในสหรัฐอเมริกา จะสามารถซื้อขายหรือลงทุนได้ก็ต่อเมื่อ พวกเขาใช้บัญชีของพ่อแม่หรือผู้ปกครองเท่านั้น
.
ตอนอายุ 9 ขวบ โจนส์ได้โน้มน้าวให้แม่ของเขาซื้อหุ้นของ Amazon(AMZN) เพราะเขาคิดว่าจะเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาวเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจร้านค้าออนไลน์
จากนั้นก็ได้ลองเทรดหุ้นตัวอื่น ๆ อีกในเวลาต่อมา
.
แนวคิดของเขาในการเลือกหุ้นนั้น เขาจะเริ่มจากการตั้งคำถามว่า “โลกกำลังจะไปถึงไหน” ซึ่งแนวคิดจากการตั้งคำถามนี้ก็ได้นำพาเขาไปสู่การซื้อหุ้นดี ๆ อีกหลายตัว เช่น DOCU (DocuSign Inc) หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวกับ electronic-signature ถัดมาก็เป็นหุ้น ROKU (Roku Inc) ที่เกี่ยวกับการสตรีมเกม และในทำนองเดียวกันก็เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับเภสัชกรรมและปัญญาประดิษฐ์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีหุ้น NVDA ที่เป็นหุ้นในกลุ่มของนวัตกรรมและ Smart Cities
.
โจนส์มีความหลงใหลในกีฬาอเมริกันฟุตบอล และเขาเองก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะรวมความสนใจด้านกีฬาของเขาเข้ากับการบริหารกองทุนป้องกันความเสี่ยง เพื่อช่วยให้นักกีฬามืออาชีพสามารถบริหารจัดการเงินผ่านกองทุนของเขาได้ ซึ่งโจนส์เองก็ได้นำเสนอหลักสูตรการลงทุนผ่านบริษัทของเขาเองที่มีชื่อว่า Return on Investment LLC
.
.
ที่มาภาพ: thetruthjones.com
เด็กวัยรุ่นชาวโตรอนโตที่กล้าถกประเด็นการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
.
มีวัยรุ่นไม่กี่คนที่กล้าพูดจุดประเด็นในเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าพ่อนักลงทุนอย่างปู่ ‘วอร์เรน บัฟเฟต์’ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งหนึ่งในส่วนน้อยนั้นก็คือเด็กชายคนนี้ “Srivatsan Prakash” เป็นนักลงทุนวัยรุ่นที่น่าทึ่งด้วยวัยเพียง 17 ปี
.
Prakash เป็นเด็กวัยรุ่นชาวโตรอนโตที่ อธิบายว่าตัวเขาเป็น "ผู้จัดการกองทุนที่ทะเยอทะยาน (aspiring fund manager)" ผ่าน Twitter ของเขา และ Prakash บอกกับ MarketWatch ว่าโลกแห่งการลงทุนดึงเขาเข้ามาในเวลา 13 ปี
.
เขาชื่นชอบที่จะศึกษาประวัติของ Berkshire Hathaway และ BRK.A อีกทั้งเขาได้อ่านชีวประวัติ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ผู้เป็นไอดอลของเขา และยังมีความสนใจในหุ้นของบริษัท Microsoft (MSFT) ที่มีผู้ร่วมก่อตั้งระดับท็อปอย่าง Bill Gates ด้วย นอกจากนี้ก็ยังชื่นชอบหนังสือ“ Rich Dad, Poor Dad” ที่เขียนโดยผู้ประกอบการ Robert Kiyosaki เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในธุรกิจของเขา
.
Prakash ยังมีจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ โดยให้เงินสนับสนุนธุรกิจกราฟิกดีไซน์ที่ขายงานผ่านทางอินสตาแกรมอีกด้วย
.
เขาประสบความสำเร็จกับหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านกาแฟอย่าง Starbucks (SBUX) ที่เป็นหุ้นตัวแรกของเขา ซึ่งเขาซื้อในช่วงกลางปี 2018 ด้วยราคา 53 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากนั้นเขาได้ขายออกไปเมื่อราคาแตะ 87 ดอลลาร์ ช่วงกลางปี 2019 ที่ผ่านมา
.
นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่โชคดีของเขาจริง ๆ ที่หุ้นสหรัฐฯอย่าง S&P 500 มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 40% ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018
.
เขาได้กำไร 60% จากการลงทุนในหุ้น Starbucks อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เขามีความมั่นใจในการเทรดของเขามาก จนทำให้ Prakash เกิดความผิดพลาดในช่วงต้นของการเริ่มชอร์ตหุ้นด้วยการที่เขาประเมินมูลค่าหุ้นบางตัวสูงเกินไป จนสุดท้ายการเทรดครั้งนั้นของเขาจึงจบลงด้วยการสูญเสียกำไรบางส่วนที่เขาทำได้จากหุ้นของ Starbucks แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณในบทเรียนครั้งนั้นของตัวเอง
.
ตอนนี้ Prakash กำลังเทรดหุ้น RealNetworks (RNWK) ซึ่งเขาเรียกมันว่าเป็นช่วงการเทรดที่ดีที่สุดของเขาก็ว่าได้ ซึ่ง RealNetworks เป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มด้านเทคโนโลยีด้านการสตรีมมิ่งมีเดีย และยังมีซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการสแกนใบหน้าที่กำลังมาแรงในตอนนี้ หุ้นตัวนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ตอนที่เขาซื้อเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นหุ้นที่วอลล์สตรีทเพิกเฉยเพราะเป็นหุ้นจากบริษัทขนาดเล็ก
.
แต่ Prakash กลับคิดว่า หุ้นเทคโนโลยีขนาดเล็กนั้นเต็มไปด้วยศักยภาพในการเติบโต และมักจะมักถูกมองข้าม แต่กลับให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ซึ่ง ‘บัฟเฟตต์’ ไอดอลของเขา ก็เคยได้ให้คำแนะนำแบบนี้ไว้ด้วย
.
ตอนนี้เขาเป็นโฮสต์ของช่องพอดแคสต์ของตัวเองที่มีชื่อว่า ‘Market Champions’ ซึ่งเขาก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เทรดเดอร์ชื่อดังอย่าง ‘Jim Rogers’ มาแล้วด้วย เขาหวังว่าสักวันจะมีกองทุนเป็นของตัวเอง และเกษียณอายุที่อายุประมาณ 35 ปี
.
คำแนะนำของเขาสำหรับนักลงทุนคนอื่น ๆ คือ “อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณยังไม่เข้าใจ และศึกษาจากนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอยู่เสมอ เพราะการลงทุนก็เปรียบเสมือนเป็นการเดินทางที่ยาวนานของตัวคุณเอง”
.
.
ที่มาภาพ: twitter @elite_investor
.
มีวัยรุ่นไม่กี่คนที่กล้าพูดจุดประเด็นในเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าพ่อนักลงทุนอย่างปู่ ‘วอร์เรน บัฟเฟต์’ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งหนึ่งในส่วนน้อยนั้นก็คือเด็กชายคนนี้ “Srivatsan Prakash” เป็นนักลงทุนวัยรุ่นที่น่าทึ่งด้วยวัยเพียง 17 ปี
.
Prakash เป็นเด็กวัยรุ่นชาวโตรอนโตที่ อธิบายว่าตัวเขาเป็น "ผู้จัดการกองทุนที่ทะเยอทะยาน (aspiring fund manager)" ผ่าน Twitter ของเขา และ Prakash บอกกับ MarketWatch ว่าโลกแห่งการลงทุนดึงเขาเข้ามาในเวลา 13 ปี
.
เขาชื่นชอบที่จะศึกษาประวัติของ Berkshire Hathaway และ BRK.A อีกทั้งเขาได้อ่านชีวประวัติ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ผู้เป็นไอดอลของเขา และยังมีความสนใจในหุ้นของบริษัท Microsoft (MSFT) ที่มีผู้ร่วมก่อตั้งระดับท็อปอย่าง Bill Gates ด้วย นอกจากนี้ก็ยังชื่นชอบหนังสือ“ Rich Dad, Poor Dad” ที่เขียนโดยผู้ประกอบการ Robert Kiyosaki เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในธุรกิจของเขา
.
Prakash ยังมีจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ โดยให้เงินสนับสนุนธุรกิจกราฟิกดีไซน์ที่ขายงานผ่านทางอินสตาแกรมอีกด้วย
.
เขาประสบความสำเร็จกับหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านกาแฟอย่าง Starbucks (SBUX) ที่เป็นหุ้นตัวแรกของเขา ซึ่งเขาซื้อในช่วงกลางปี 2018 ด้วยราคา 53 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากนั้นเขาได้ขายออกไปเมื่อราคาแตะ 87 ดอลลาร์ ช่วงกลางปี 2019 ที่ผ่านมา
.
นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่โชคดีของเขาจริง ๆ ที่หุ้นสหรัฐฯอย่าง S&P 500 มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 40% ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018
.
เขาได้กำไร 60% จากการลงทุนในหุ้น Starbucks อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เขามีความมั่นใจในการเทรดของเขามาก จนทำให้ Prakash เกิดความผิดพลาดในช่วงต้นของการเริ่มชอร์ตหุ้นด้วยการที่เขาประเมินมูลค่าหุ้นบางตัวสูงเกินไป จนสุดท้ายการเทรดครั้งนั้นของเขาจึงจบลงด้วยการสูญเสียกำไรบางส่วนที่เขาทำได้จากหุ้นของ Starbucks แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณในบทเรียนครั้งนั้นของตัวเอง
.
ตอนนี้ Prakash กำลังเทรดหุ้น RealNetworks (RNWK) ซึ่งเขาเรียกมันว่าเป็นช่วงการเทรดที่ดีที่สุดของเขาก็ว่าได้ ซึ่ง RealNetworks เป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มด้านเทคโนโลยีด้านการสตรีมมิ่งมีเดีย และยังมีซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการสแกนใบหน้าที่กำลังมาแรงในตอนนี้ หุ้นตัวนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ตอนที่เขาซื้อเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นหุ้นที่วอลล์สตรีทเพิกเฉยเพราะเป็นหุ้นจากบริษัทขนาดเล็ก
.
แต่ Prakash กลับคิดว่า หุ้นเทคโนโลยีขนาดเล็กนั้นเต็มไปด้วยศักยภาพในการเติบโต และมักจะมักถูกมองข้าม แต่กลับให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ซึ่ง ‘บัฟเฟตต์’ ไอดอลของเขา ก็เคยได้ให้คำแนะนำแบบนี้ไว้ด้วย
.
ตอนนี้เขาเป็นโฮสต์ของช่องพอดแคสต์ของตัวเองที่มีชื่อว่า ‘Market Champions’ ซึ่งเขาก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เทรดเดอร์ชื่อดังอย่าง ‘Jim Rogers’ มาแล้วด้วย เขาหวังว่าสักวันจะมีกองทุนเป็นของตัวเอง และเกษียณอายุที่อายุประมาณ 35 ปี
.
คำแนะนำของเขาสำหรับนักลงทุนคนอื่น ๆ คือ “อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณยังไม่เข้าใจ และศึกษาจากนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอยู่เสมอ เพราะการลงทุนก็เปรียบเสมือนเป็นการเดินทางที่ยาวนานของตัวคุณเอง”
.
.
ที่มาภาพ: twitter @elite_investor
คู่รัก TikToker ผู้เป็นแรงบันดาลใจด้านการเงินส่วนบุคคลและการลงทุนให้กับวัยรุ่น
.
ด้วยการร่วมมือกันของคู่รักวัยรุ่น Parii Bafna กับ Adi Adara ที่พร้อมจะสร้างชื่อในฐานะนักลงทุนรุ่นใหม่ โดยมีผู้ติดตามกว่า 800,000 ราย และสามารถเรียกยอดไลก์ให้กับคลิปวิดีโอด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคลของพวกเขาด้วยจำนวน 18.1 ล้านไลก์ บนแพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง TikTok
.
Bafna และ Adara ต่างก็หันมาสนใจการลงทุนเมื่อหลายปีก่อนผ่านเกมจำลองตลาดหุ้นเสมือนจริงบนเว็บไซต์ของ MarketWatch
.
ต่อมาพวกเขาใช้เวลาว่างช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อเพิ่มการลงทุนและสร้างรายได้ในตลาดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเริ่มต้นการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ที่จะต้องแบ่งเวลามาเล่นหุ้นและเรียนควบคู่กัน
.
แต่อย่างไรก็ตามการทำตลาดบน TikTok ก็เป็นแหล่งรายได้ที่ดีของพวกเขาก็ว่าได้ ซึ่งในจุดนี้ Befna ใช้เวลาไปกับการเป็นนักลงทุนเต็มตัว แต่ตัวเธอเองก็มองว่า เธอควรจะมองหาโอกาสที่ดีกว่าในมหาวิทยาลัย ดังนั้นเธอจึงวางแผนที่จะตั้งอกตั้งใจเรียนควบคู่ไปกับการเป็น TikToker และสิ่งที่น่าปลื้มใจก็คือ...พ่อแม่ของเธอต่างก็สนับสนุนในสิ่งที่เธอเลือก
.
ตลอดการลงทุนที่ผ่านมา ก็ต้องยอมรับว่ามีบ้างที่พลาดไป โดยก่อนหน้าการระบาดจากโควิด-19 พวกเขาก็ได้ลงไปเล่นหุ้น Marathon Oil (MRO) และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้ง Parii Bafna กับ Adi Adara ก็ได้ลงไปชอร์ตหุ้นตัวที่มาแรงอย่าง GameStoop (GME) เช่นกัน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างแย่จากหุ้นทั้งสองตัวที่กล่าวไปแล้ว
.
ตอนนี้พวกเขามุ่งหน้าศึกษาเรื่องกระแสเงินสดของบริษัทต่าง ๆ และหาความรู้ด้านการลงทุนเพิ่มเติมจากการศึกษาการลงทุนของ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ และเริ่มศึกษาการอ่านงบการเงินของบริษัท และการเลือกลงทุนในบริษัทที่มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันและให้ผลตอบแทนคงที่ในระยะยาว
.
ส่วนเรื่องการลงทุนในหุ้น ตอนนี้พวกเขาสนใจหุ้น PROG จากบริษัท Progenity อีกทั้งพวกเขายังมีความสนใจในกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (Exchange-traded fund) อย่าง ARK Innovation (ETF ARKK) และ SPDR S&P 500 ETF (SPY)
.
นอกจากนี้พวกเขาก็ได้ลงทุนในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple (AAPL) และ Microsoft (MSFT) ซึ่งพวกเขาก็ยังมีหุ้นจากบริษัทด้าน e-commerce เช่น Shopify (SHOP) อีกด้วย
.
ในอีก 5 ปีข้างหน้าพวกเขาหวังว่าจะสามารถเติมเต็มข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับคนรุ่นใหม่ได้มากกว่านี้โดยการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของพวกเขา
.
.
ที่มาภาพ: tiktok @thepariibafna
.
ที่มาบทความ: marketwatch
.
ด้วยการร่วมมือกันของคู่รักวัยรุ่น Parii Bafna กับ Adi Adara ที่พร้อมจะสร้างชื่อในฐานะนักลงทุนรุ่นใหม่ โดยมีผู้ติดตามกว่า 800,000 ราย และสามารถเรียกยอดไลก์ให้กับคลิปวิดีโอด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคลของพวกเขาด้วยจำนวน 18.1 ล้านไลก์ บนแพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง TikTok
.
Bafna และ Adara ต่างก็หันมาสนใจการลงทุนเมื่อหลายปีก่อนผ่านเกมจำลองตลาดหุ้นเสมือนจริงบนเว็บไซต์ของ MarketWatch
.
ต่อมาพวกเขาใช้เวลาว่างช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อเพิ่มการลงทุนและสร้างรายได้ในตลาดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเริ่มต้นการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ที่จะต้องแบ่งเวลามาเล่นหุ้นและเรียนควบคู่กัน
.
แต่อย่างไรก็ตามการทำตลาดบน TikTok ก็เป็นแหล่งรายได้ที่ดีของพวกเขาก็ว่าได้ ซึ่งในจุดนี้ Befna ใช้เวลาไปกับการเป็นนักลงทุนเต็มตัว แต่ตัวเธอเองก็มองว่า เธอควรจะมองหาโอกาสที่ดีกว่าในมหาวิทยาลัย ดังนั้นเธอจึงวางแผนที่จะตั้งอกตั้งใจเรียนควบคู่ไปกับการเป็น TikToker และสิ่งที่น่าปลื้มใจก็คือ...พ่อแม่ของเธอต่างก็สนับสนุนในสิ่งที่เธอเลือก
.
ตลอดการลงทุนที่ผ่านมา ก็ต้องยอมรับว่ามีบ้างที่พลาดไป โดยก่อนหน้าการระบาดจากโควิด-19 พวกเขาก็ได้ลงไปเล่นหุ้น Marathon Oil (MRO) และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้ง Parii Bafna กับ Adi Adara ก็ได้ลงไปชอร์ตหุ้นตัวที่มาแรงอย่าง GameStoop (GME) เช่นกัน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างแย่จากหุ้นทั้งสองตัวที่กล่าวไปแล้ว
.
ตอนนี้พวกเขามุ่งหน้าศึกษาเรื่องกระแสเงินสดของบริษัทต่าง ๆ และหาความรู้ด้านการลงทุนเพิ่มเติมจากการศึกษาการลงทุนของ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ และเริ่มศึกษาการอ่านงบการเงินของบริษัท และการเลือกลงทุนในบริษัทที่มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันและให้ผลตอบแทนคงที่ในระยะยาว
.
ส่วนเรื่องการลงทุนในหุ้น ตอนนี้พวกเขาสนใจหุ้น PROG จากบริษัท Progenity อีกทั้งพวกเขายังมีความสนใจในกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (Exchange-traded fund) อย่าง ARK Innovation (ETF ARKK) และ SPDR S&P 500 ETF (SPY)
.
นอกจากนี้พวกเขาก็ได้ลงทุนในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple (AAPL) และ Microsoft (MSFT) ซึ่งพวกเขาก็ยังมีหุ้นจากบริษัทด้าน e-commerce เช่น Shopify (SHOP) อีกด้วย
.
ในอีก 5 ปีข้างหน้าพวกเขาหวังว่าจะสามารถเติมเต็มข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับคนรุ่นใหม่ได้มากกว่านี้โดยการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของพวกเขา
.
.
ที่มาภาพ: tiktok @thepariibafna
.
ที่มาบทความ: marketwatch
